กรมประมงแนะส่งออกกุ้งตลาดชายแดน หลังโควิดกระทบตลาดจีนคาดเสียหาย 650 ล้าน ขณะทูตเกษตร ชี้ด่านโม่ฮานเปิดทำงานปกติแล้ว นายบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ โรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศจีนและลามไปทั่วโลก ส่งผลให้การส่งออกสินค้าสัตว์น้ำของไทยไปยังสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของสินค้าประมงไทยชะลอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ที่ไทยส่งออกในรูปของสินค้าประมงมีชีวิตและสดแช่แข็งด้วยการขนส่งทางอากาศเมื่อจีนประกาศปิดเมือง และไทยต้องงดเที่ยวบิน เพื่อยับยั้งการระบาดของโรค ทำให้การส่งออกสินค้าประมงไปจีนได้รับความเสียหายอย่างหนักทันที จากการประเมินเบื้องต้น ผลกระทบในช่วงระหว่างเดือนก.พ.-เม.ย. 2563 การส่งออกกุ้งมีชีวิตและสดแช่เย็น จะลดลง จำนวน 1,500 – 2,900 ตัน มูลค่ากว่า 340 - 650 ล้านบาท“ประมงได้หารือ เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเกษตรกร เบื้องต้นมีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์และเพิ่มช่องในการส่งออก ซึ่งจากเดิมจะต้องส่งสินค้ากุ้งมีชีวิตไปทางเครื่องบิน อาจเปลี่ยนเป็นส่งออกโดยรถและเปลี่ยนเป็นกุ้งแช่แข็ง หรือ กุ้งต้ม นอกจากนี้ ยังต้องหาตลาดใหม่ทดแทน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว กัมพูชา ที่่ปัจจุบันมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น"นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานการเกษตรต่างประเทศ ประจำสถานกงสุลใหญ่ ถึงสถานการณ์ตลาดสินค้าเกษตรในจีน ที่ปัจจุบันศุลกากรเหมิงล่า ในสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน  ซึ่งเป็นที่ตั้งของด่านโม่ฮาน ได้เปิดให้บริการปกติแล้วโดยด่านดังกล่าว เป็นเส้นทางหลักของการส่งออกผลไม้จากไทย ผ่านเส้นทางบก R3A ผ่าน ลาว ทั้งนี้ศุลกากรเหมิงล่า ได้กำหนดแนวทางป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่พรมแดนอย่างเต็มกำลัง และปริมาณงานมากเนื่องจากมีสินค้าไทยที่ผ่านเข้าด่านที่กำกับดูแลปริมาณมาก ช่วงวันที่ 1-26 ก.พ. 2563 มีการนำเข้าผลไม้สดจากไทยทางด่านโม่ฮาน เช่น ทุเรียน ขนุน กล้วยหอม และลำไย ปริมาณ 12,500 ตัน โดยตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. พบว่าปริมาณการนำเข้าผลไม้ไทยปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

(ข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ)