นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
สมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย ("สมาคมฯ") ซึ่งเป็นสมาคมจดทะเบียนในสังกัดกระทรวงมหาดไทย
เป็นสมาคมที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ในการดำเนินกิจการ และดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์ของสมาชิกเป็นหลัก รวมถึง สถาบันอบรมไอทีไอ
ซึ่งเป็นสถาบันที่ตั้งขึ้นเพื่อจัดให้มีการอบรมหลักสูตรตัวแทนออกของตามมาตราฐานของสถาบันวิทยาการศุลกากร ในสังกัดกรมศุลกากร
ให้แก่สมาชิก และ/หรือ บุคคลธรรมดาเป็นการทั่วไปอย่างกว้างขวาง
ในการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น สมาคมฯอาจมีความจำเป็นจะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มีฐานะเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(“ท่าน”) โดยสมาคมฯมีความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้ความดูแลของสมาคมฯ
และมุ่งมั่นที่จะจัดการข้อมูลด้วยวิธีการที่มั่นคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ด้วยการให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว
และความปลอดภัยของท่าน สมาคมฯจึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ซึ่งอธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล
และข้อมูลอ่อนไหวของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของท่าน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขการใช้บริการ
โดยสมาคมฯขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้ก่อนใช้บริการ ทั้งนี้ เมื่อผู้ใช้บริการเริ่มต้นใช้บริการของสมาคมฯ
หรือติดต่อสื่อสารมายังสมาคมฯผ่านช่องทางที่กำหนด ถือว่าท่าน ตกลงและยอมรับนโยบายฉบับนี้แล้ว หากผู้ใช้บริการปฏิเสธหรือไม่ยอมรับนโยบายฉบับนี้
ทางสมาคมฯขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการให้บริการต่าง ๆ แก่ผู้ใช้บริการดังกล่าว
1.คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล”
หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของนิติบุคคล ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน ที่อยู่อีเมลที่ใช้ในการทำงาน ที่อยู่อีเมลกลุ่มของบริษัท หรือข้อมูลแฝงที่ทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
“ข้อมูลอ่อนไหว”
หมายถึง ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน และอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“ประมวลผล”
หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การปรึกษา การใช้ การเปิดเผย (โดยการส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ) การจัดเรียง การนำมารวมกัน การบล็อกหรือจำกัด การลบหรือการทำลาย เป็นต้น
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”
หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“คุกกี้”
หมายถึง ไฟล์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวที่จำเป็นลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารซึ่งจะมีผลในขณะที่เข้าใช้งานระบบเว็บไซต์เท่านั้น
“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”
หมายถึง บุคคลซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมฯให้มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
2.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
(1) เพื่อให้สมาคมฯสามารถจัดการ พัฒนา และดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินกิจกรรมได้ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้เป็นไปตามการอนุญาตให้ใช้สิทธิ การบริหารจัดการและการพัฒนาระบบ การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ การบำรุงรักษาและการใช้ระบบไอที
(2) เพื่อดำเนินการทางการตลาด และวิเคราะห์ข้อมูล (Marketing and Data Analysis) เช่น การแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ ผ่านทาง อีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ ไดเร็กเมล รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการวิจัยทางการตลาด
(3) เพื่อดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของธุรกรรม การหักบัญชี และตรวจสอบความถูกต้องของเลขที่บัญชี และธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน การคืนเงิน การออกใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ตามประมวลรัษฎากรและกฎหมายหรือประกาศอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
(4) เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัยของตัวโปรแกรม ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย เช่น การเข้าสู่ระบบ (Log in) เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
(5) เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
(6) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ทั้งในและต่างประเทศที่ใช้บังคับและที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของสมาคมฯ การเงินและการบัญชี รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น คำสั่งศาล หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ
(7) เพื่อยืนยันตัวตน ป้องกันการสแปม หรือการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือผิดกฎหมาย
(8) เพื่อตรวจสอบว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึงและใช้บริการของสมาคมฯอย่างไร ทั้งในภาพรวมและลักษณะรายบุคคล
(9) ความยินยอม (Consent) เมื่อสมาคมฯ ไม่สามารถอาศัยข้อยกเว้น หรืออ้างอิงฐานทางกฎหมายตามกรณีที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้ สมาคมฯ จะขอความยินยอมเป็นการเฉพาะจากท่าน โดยสมาคมฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตาม วัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งและที่ได้รับความยินยอมจากท่าน หรือในกรณีที่สมาคมฯประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว สมาคมฯจะดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดหรือโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
(10) เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สมาคมฯ จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดข้างต้น ในส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน สมาคมฯมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่สมาคมฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรือสมาคมฯอาจจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว สมาคมฯอาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
3.ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
(1) ข้อมูลทั่วไปของผู้ใช้บริการ เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล อาชีพ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลการติดต่อ (ได้แก่ อีเมลและเบอร์โทรศัพท์) ที่อยู่ สถานที่ทำงาน อีเมล เบอร์โทรศัพท์
(2) ข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้บริการได้ (Online Identifier) ได้แก่ Username / Password ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ผู้ใช้บริการใช้สำหรับการเชื่อมต่อแอปพลิเคชันหรือติดต่อกับบริษัท อาทิเช่น หมายเลข IP รหัสประจำ ตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ประเภทของเบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกแอปพลิเคชัน พฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชัน (Customer Behavior) รวมถึง ข้อมูลที่ค้นหา การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ บนแอปพลิเคชัน และข้อมูลที่สมาคมฯได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน ทั้งนี้ สำหรับการใช้คุกกี้ (Cookies) ผู้ใช้บริการรับทราบว่า สมาคมฯได้ติดตั้ง “คุกกี้ (Cookies)” ซึ่งเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ที่จะทำการเก็บข้อมูลชั่วคราวที่จำเป็น ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการ เพื่อความสะดวกในการใช้เว็บไซต์ของผู้ใช้บริการ (ซึ่งระบุถึงเครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ไม่ระบุถึงตัวผู้ใช้บริการหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้บริการ) โดยเราอาจนำข้อมูลที่คุกกี้ (Cookies) ได้บันทึกหรือเก็บรวบรวมไว้ ไปใช้ในการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือกิจกรรมของเว็บไซต์เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ
(3) ข้อมูลการใช้บริการที่ผู้ใช้บริการใช้ผ่านแอปพลิเคชัน ได้แก่ ข้อมูลบันทึกเข้าสู่ระบบ (Log-in) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้แอปพลิเคชัน เวลาที่เยี่ยมชมและใช้บริการเว็บไซต์ (Access Time) ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะเชื่อมโยงมายังตัวผู้ใช้บริการด้วยบัญชีผู้ใช้งาน
(4) ข้อมูลการชำระเงินเพื่อการใช้บริการของสมาคมฯ ข้อมูลที่ปรากฎในใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น
(5) ข้อมูลการโต้ตอบ และข้อมูลการสื่อสาร รวมถึงข้อมูลที่ผู้ใช้บริการอาจติดต่อและแจ้งให้สมาคมฯทราบผ่าน Call Center ระบบแชต และบริการต่างๆ ไม่ว่าจะในรูปแบบใด หรือวิธีใดๆ ก็ตาม ซึ่งอาจเป็นภาพ ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียงโดยไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์
(6) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เราอาจมีความจำเป็นต้องจัดเก็บ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของสมาคมฯตามกฎหมาย ประกาศ หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ผู้ใช้บริการอาจยินยอมส่งต่อเปิดเผยต่อสมาคมฯ
4.การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
(1) สมาคมฯจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น โดยในกรณีใด ๆ ที่สมาคมฯต้องการเก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมหรือมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย สมาคมฯจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อนที่จะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้ดำเนินการได้
(2) สมาคมฯจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และในกรณีที่สมาคมฯใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก บริษัทจะจัดให้มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและมีการควบคุมการเข้าถึง ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยสมาคมฯจะกำกับดูแลพนักงาน ผู้ให้บริการเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานของสมาคมฯมิให้ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาคมฯกำหนดหรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก
(3) สมาคมฯอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่สมาคมฯจัดเก็บในปัจจุบัน และที่จะได้จัดเก็บในอนาคต ให้แก่พันธมิตร คู่ค้า บุคคล หรือนิติบุคคลอื่นภายในขอบเขตตามที่มีข้อตกลงร่วมกัน และที่ท่านสามารถคาดหมายได้ โดยสมาคมฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบทุกครั้ง เว้นแต่จะได้รับการปฏิเสธจากเจ้าของข้อมูลมิให้เปิดเผยแก่บุคคลภายนอกเป็นการเฉพาะราย
5.การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอก
ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอกแก่สมาคมฯ ถือว่าท่านให้การรับประกันว่าท่านกระทำไปโดยมีสิทธิ หรือได้รับอนุญาตโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลให้กระทำเช่นนั้น และท่านอนุญาตให้สมาคมฯ จัดเก็บ ใช้ คัดลอก ข้อมูลดังกล่าวได้ภายในขอบเขตที่กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ท่านมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลภายนอกให้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวและนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของสมาคมฯด้วยตัวท่านเอง สมาคมฯจะไม่มีความรับผิดใดๆต่อบุคคลภายนอกและไม่มีหน้าที่ใดๆในการแจ้งให้บุคคลภายนอกทราบถึงเหตุดังกล่าว
6.ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
(1) กรณีที่สมาคฯได้รับข้อมูลจากการลงทะเบียน การสมัครสมาชิก สมาคฯจะเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้ และตราบเท่าที่ผู้ใช้ยังคงเป็นสมาชิก และจะเก็บต่อไปอีก 5 (ห้า) ปี นับถัดจากปีที่สิ้นสุดสถานะการเป็นสมาชิกหรือสิ้นสุดความสัมพันธ์
(2) ในกรณีอื่น ๆ สมาคมฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควร เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) ทั้งนี้ หากมีการดำเนินการทางศาล ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้อาจถูกจัดเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาใด ๆ ในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ จากนั้นข้อมูลของผู้ใช้จะถูกลบหรือเก็บตามที่กฎหมายอนุญาต
เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้ว สมาคมฯจะดำเนินการลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เราจะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้นานกว่าที่ระบุข้างต้น หากจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจเกี่ยวข้อง และเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย เช่น เพื่อความปลอดภัย เพื่อการป้องกันการละเมิดหรือการประพฤติมิชอบ หรือเพื่อการเก็บบันทึกทางการเงิน เป็นต้น
7.สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถขอใช้สิทธิผ่าน "แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Right Request Form)" โดยท่านสามารถติดต่อสมาคมฯ ตามข้อ 11
(1) สิทธิขอเพิกถอนความยินยอม หากท่านได้ให้ความยินยอมแก่สมาคมฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับสมาคมฯเว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ โดยสมาคมฯจะแจ้งถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาการถอนความยินยอมดังกล่าวให้ท่านทราบ
(2) สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่อยู่ในความรับผิดชอบของสมาคมฯ รวมถึงขอให้สมาคมฯเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม ทั้งนี้สมาคมฯมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ หากการเข้าถึงหรือขอรับสำเนานั้นส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือกรณีที่ท่านไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
(3) สิทธิขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่สมาคมฯได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่าน หรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้สมาคมฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาคมฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่สมาคมฯในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาคมฯจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อสามารถดำเนินการตามสัญญาได้ตามความประสงค์ หรือ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
(4) สิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดด้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในเวลาใดก็ได้ หากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือ เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สถิติ ทั้งนี้สมาคมฯสามารถปฏิเสธคำร้องขอได้ หากเป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของสมาคมฯ หรือกรณีที่สมาคมฯแสดงให้เห็นถึงเหตุอันซอบด้วยกฎหมายสำคัญยิ่งกว่า หรือเพื่อก่อตั้ง การใช้สิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามกฎหมาย
(5) สิทธิขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเห็นว่าสมาคมฯไม่มีความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ช้างต้น ทั้งนี้สมาคมฯอาจปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าวหากข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านร้องขอให้ลบนั้นจำเป็นต้องเก็บรวบรวมตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการดำเนินการ
(6) สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่สมาคมฯอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้าน หรือกรณีอื่นใดที่สมาคมฯไม่มีความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลแต่ท่านขอให้ระงับการใช้ข้อมูลนั้นแทน
(7) สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องหากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8) สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน ในกรณีที่สมาคมฯมีการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สมาคมฯจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่านโดยไม่ชักช้า เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นก่อให้เกิดภาระแก่สมาคมฯเกินสมควร หรือเสี่ยงต่อการละเมิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือกรณีที่เป็นการพันวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอ
8.การรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
สมาคมฯตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สมาคมฯจึงกำหนดให้มีมาตรการอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงกำหนดนโยบาย ระเบียบ แนวปฏิบัติ และขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
(1) สมาคมฯใช้บริการ Sever, Hosting และ Cloud จากผู้ให้บริการที่เป็นผู้นำในการให้บริการด้านระบบฐานข้อมูลตามมาตรฐานสากล ที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง เพื่อการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลอื่นๆของผู้ใช้บริการ ดังนั้น การสมัครเข้าใช้บริการของสมาคมฯ ถือว่าท่านยอมรับว่าข้อมูลของท่านจะถูกเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูล ของ Sever, Hosting และCloud ซึ่งอาจจัดเก็บได้จากทั้งในและต่างประเทศ
(2) กำหนดนโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อจัดการข้อมูลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดอย่างปลอดภัย
(3) ไม่จำหน่ายหรือขายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ว่ากรณีใด และจะไม่โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของสมาคมฯ
(4) จำกัดสิทธิลูกจ้างของสมาคมฯ ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และกำหนดสิทธิในการเข้าถึง หรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยสูงสุดของข้อมูล
(5) ป้องกันการเข้าถึงและนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจัดให้มีการเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบตัวตนและเทคโนโลยีการตรวจจับไวรัส ตามความจำเป็น
(6) กำหนดให้ลูกจ้างของสมาคมฯ เข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
(7) จัดให้มีระบบการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(8) จัดให้มีระบบการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่งโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่จะสามารถกระทำได้ เว้นแต่การละเมิดดังกล่าวไม่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
9.การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ บริการของบุคคลภายนอก
เว็บไซต์ของสมาคมฯอาจมีลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกซึ่งบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บริการ และข้อมูลส่วนบุคคล โดยสมาคมฯไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใด ๆ ที่เก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกดังกล่าว เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นให้ละเอียดก่อนการใช้บริการเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้
(1) สมาคมฯมีตัวเลือกให้ผู้ใช้ส่งออกข้อมูลไปยังแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม รวมถึงเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งรวมถึงแต่ ไม่จำกัดเฉพาะ Facebook, Google Account, LINE Account, LiveChat เมื่อส่งออกข้อมูลดังกล่าว แสดงว่าผู้ใช้อาจกำลังเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้ให้กับบุคคลอื่นหรือองค์กรอื่นที่รับผิดชอบด้านการดำเนินการและบำรุงรักษาแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม บุคคลอื่นที่เข้ามาดูหรือใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์เหล่านั้นอาจเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ได้ สมาคมฯไม่ได้เป็นเจ้าของหรือดูแลจัดการแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เชื่อมต่อ สมาคมฯจึงขอแนะนำให้ผู้ใช้ระมัดระวังเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในลักษณะนี้ และผู้ใช้ควรทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์นั้นๆเพื่อรับรองว่าผู้ใช้พอใจกับวิธีที่เว็บไซต์เหล่านั้นใช้ข้อมูลที่ผู้ใช้มอบให้
(2) สมาคมฯมีการใช้งาน Google Analytics เพื่อเรียกดูข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ รวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลของ เบราเซอร์ ข้อมูลของอุปกรณ์ ประเทศที่อยู่ เพื่อจุดประสงค์ในการพัฒนาปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้นรวมถึงนำข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเพื่อการนำเสนอและโฆษณาสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละราย โดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคลอื่นใดนอกเหนือจากใช้งานภายในสมาคมฯ หากผู้ใช้ไม่ต้องการให้ Google Analytics สามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ สามารถเลือกที่จะปิดการบันทึกการใช้งานผ่านเครื่องมือของ Google ทาง https://tools.google.com/dlpage/gaoptout/
10.การเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สมาคมฯอาจทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)นี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง สมาคมฯจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใด ๆ ด้วยช่องทางที่เหมาะสม นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(Privacy Policy)ฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565
11. การติดต่อ สอบถามหรือใช้สิทธิ
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อสมาคมฯได้ดังนี้
สมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย / สถาบันอบรมไอทีไอ 137-141 ถนนสุนทรโกษา แขวง/เขต คลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์: (66)-2-249-1995, (66)-2-350-2845-6 www.ctat.or.th