การท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน-เชียงของเร่งเพิ่มศักยภาพการนำเข้า-ส่งออก

การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ตรวจเยี่ยมท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) และท่าเรือเชียงของ (ทชข.) จังหวัดเชียงราย เพื่อมอบนโยบายการบริหารงานทั้งสองท่าเรือ พร้อมรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากผู้แทนภาครัฐและเอกชน โดยมีเรือโท ดร. ชำนาญ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการ กทท.สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ ว่าที่ ร้อยตรี รัฐกร เขียวไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด และผู้แทนจากหน่วยงานในพื้นที่ในการนี้ รชค.ได้มอบนโยบายการพัฒนา ทชส. ดังนี้

1. จัดหาเครื่องมือทุ่นแรง เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการขนถ่ายสินค้า โดยให้ดำเนินการเช่าในเบื้องต้น ก่อนจัดหาเป็นการถาวรต่อไป
2. ให้ กทท. พิจารณาจัดทำแผนเพิ่มรายได้ของ ทชส. ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
3. เชิญชวนนักลงทุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศเพื่อนบ้านที่สนใจ ร่วมลงทุนในการพัฒนาท่าเรือ 
4. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐและเอกชนของสาธารณรัฐประชาชนจีน สหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเพิ่มประเภทของสินค้าและมูลค่าการนำเข้า – ส่งออกให้มากขึ้น รวมทั้งหาทางแก้ไขปัญหา ขั้นตอน หรือลดอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการค้าระหว่างกัน
5. ร่วมหารือกับภาคเอกชน ภาคธุรกิจนำเข้า – ส่งออก เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยให้ตั้งคณะทำงานร่วมระดับจังหวัด
6. ขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร สานักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมสรรพสามิต เพื่อให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ
 

ส่วนแนวทางการพัฒนา ทชข. ได้แก่

1. เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ นำระบบเชื่อมโยงโลจิสติกส์มาสนับสนุนการดำเนินงาน  

2. เร่งหารือกับภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มประเภทของสินค้า เนื่องจากการขนส่งทางเรือมีต้นทุนต่ำกว่าการขนส่งประเภทอื่น  

3. ใช้พื้นที่ของ ทชข. ของในกิจกรรมอื่นๆ เช่น การท่องเที่ยว เพื่อให้มีการเพิ่มรายได้จากการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ให้มากขึ้น ทั้งนี้จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง มีความพร้อมหลายด้าน ทั้งด้านการค้าการลงทุน และโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายในการสนับสนุนส่งเสริมการค้าชายแดน การพัฒนาพื้นที่รองรับเขตเศรษฐกิจชายแดน จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ทุกฝ่ายควรเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดควบคู่กันไป เพื่อนำรายได้เข้ามาสู่จังหวัดมากยิ่งขึ้น
 

(ข้อมูลจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย)